Untitled Document ข้อควรรู้เกี่ยวกับปลาการ์ตูน  1.ปรับตัวเข้ากับตู้เลี้ยงได้ง่ายมาก  2.ขนาดเล็ก ความยาวเฉลี่ย 2-5 นิ้ว ชอบอยู่กับดอกไม้ทะเล  3.ใช้พื้นที่ในการเลี้ยงน้อย ชอบว่ายน้ำอยู่กับที่   4.นิสัยอ่อนโยน ไม่ดุร้ายต่อปลาต่างชนิด แต่จะหวงพื้นที่กับปลาชนิดเดียวกัน  5.สามารถเปลี่ยนเพศจากตัวผู้เป็นตัวเมียได้ โดยธรรมชาติแล้วตัวผู้จะมีขนาดเล็กกว่าตัวตัวเมีย  6.เป็นปลาที่เชื่องง่ายและ กินอาหารได้ทุกประเภท (พืช สัตว์ อาหารสำเร็จรูป)  7.อายุยืนถึง 25 ปี พ่อแม่พันธุ์ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงจะเริ่มวางไข่ได้ตั้งแต่อายุ 2 ปี  8.พ่อแม่พันธุ์ที่ได้จากการเพาะ สามารถว่างไข่ได้ง่ายโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยดอกไม้ทะเล  9.ปลาการ์ตูนสามารถวางไข่ได้ทุก 20 วัน  10.ปลาอานม้า และปลาลายปล้อง จะตกใจง่ายมาก  11.ปลาเพอคูล่า เป็นปลาที่มีเสน่ห์ที่สุด  จุดเด่นของปลาเพาะคืออะไร 1. เป็นปลาที่แข็งแรงเลี้ยงง่าย เพราะไม่ผ่านการจับด้วยยาพิษ  2. เป็นปลาที่ผ่านการคัดเลือกสายพันธุ์ ที่มีความทนทานต่อโรคสูง เลี้ยงง่ายโตเร็ว  3.ไม่ต้องรบกวนระบบนิเวศทางธรรมชาติ ในระหว่างการจับทุกวิธี  4.ไม่จำเป็นต้องเลี้ยงรวมกับดอกไม้ทะเล  5.สามารถเลี้ยงอยู่ในตู้ขนาดเล็กกว่าปลาที่จับจากธรรมชาติได้  6.สามารถใช้ระบบกรอง sub sand ได้  7.ฝึกให้ปลากินอาหารสำเร็จรูปได้ง่าย  8.ปลามีความทดทานต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพทางกายภาพของน้ำได้เป็นอย่างดี เช่น ความเค็ม ความเป็นกรด-ด่าง ปริมาณของแอมโมเนีย อุณหภูมิ ปริมาณออกซิเจน ฯลฯ  9.จัดได้ว่าเป็นสัตว์เลี้ยงแล้ว เพราะสามารถเพาะพันธุ์ได้ถึงรุ่นหลานโดยไม่ต้องรบกวนพ่อแม่พันธุ์ที่จับได้จากธรรมชาติอีกต่อไป  10.ปลาเพาะจะวางไขได้ง่ายกว่าธรรมชาติ และสามารถได้ลูกปลาง่ายมาก


 

เรียนรู้ระบบนิเวศของปลาการ์ตูน

ชีวิตความเป็นอยู่ของปลาการ์ตูนทั้งใน
ระบบปิดและธรรมชาติได้สัมผัสปลา การ์ตูนนับแสนตัวอย่างใกล้ชิดเหมาะ่
สำหรับเยาวชนและผู้ใหญที่สนใจเรียนรู้ เรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งมีชิวิตใต้ทะเล

แผ่นที่ไป Percula Farm

 

เปิดบริการแล้ว เพลินอาหารทะเลอยู่ระหว่าทางไปเพอคูล่าฟาร์ม
    สถานที่สะอาด อาหารอร่อย สัมผัสบรรยาศชายทะเล

ข่าวดี !!!

เอี้องผารีสอร์ท และ เอื้องผากางเต็นส์ เปิดให้บริการแล้ว สำหรับท่านที่ต้องการห้องพักหรือสถานที่กางเต็นส์ สามารถติดต่อได้ทีุ่ สอบถามได้ที่  คุณสิงห์ tel.08-1313-6324 


ประกาศผลรางวัลภาพวาดระบายสี ในงานวันเด็กแห่งชาติ
   
   - รางวัลที่ 1 ได้แก่ ด.ญ. สุภัสรา จอมมะเริง

   - รางวัลที่ 2 ได้แก่ ด.ช. โภคทรัพย์ ผาสุกสกุล